top of page

Korea Surgery Agency No.1
Korea Contour Make-up
คืออะไร ?
ความแตกต่างระหว่างการแต่งหน้ากึ่งถาวรและการสักถาวร
หัวข้อ | Contour Make-up | Tattoo |
---|---|---|
ส่วนของร่างกาย | ใบหน้า (คิ้ว,ขอบตา,ริมฝีปาก,ไรผม)
| ทั่วร่างกาย
|
สี | ผสมหลากหลายสีเข้าด้วยกัน
| ส่วนใหญ่เป็นสีดำ
|
วัตถุประสงค์การรักษา | เพื่อให้ได้โครงหน้าที่สวยงามตามต้องการ
| ความสร้างสรรค์,สัญลักษณ์
|
วัตถุดิบ
| สี (Iron oxide)
| หมึก (Carbon)
|
ลักษณะพิเศษ
| การแต่งหน้ากึ่งถาวร(Permanent make-up) | การสักถาวร (Tattoo) |
ระยะเวลาความคงทน | 6 เดือน - 2 ปี
| ถาวร
|
การแพ้
| ยากที่จะเกิดการแพ้จากสีธรรมชาติ
| มีโอกาสสูงที่จะเกิดการแพ้
|
การเปลี่ยนแปลงของสี | จะเปลี่ยนเป็น สีฟ้า,ชมพูเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับการผสมสี
| สีฟ้า, สีเขียว
|
การรักษาครั้งที่ 2
| จำเป็นต้องรีทัชครั้งที่ 2
| ไม่จำเป็น
|
การฝังสีบนผิวหนัง
| ฝังสีระหว่างส่วนล่างของหนังกำพร้าและส่วนบนของชั้นผิวหนัง
| ฝังสีลงบนชั้นผิวหนัง
|
การติดเชื้อ
| โอกาสในการติดเชื่อน้อยมากเนื่องจากใช้เข็มแล้วทิ้ง
| โอกาสในการติดเชื้อสูงเนื่องจากการใช้เข็มซ้ำ
|
" การสักที่เรียกว่า แทททู (Tattoo), การสักถาวร (Permanent) นั้น เป็นการฝังสีลงไปบนชั้นผิวหนังให้ติดทนอย่างถาวร
มีการใช้สีสารเคมีที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้และทำให้การแก้ไขรอยสักเป็นไปได้ยาก "
ลักษณะพิเศษของการแต่งหน้ากึ่งถาวร
หลังจากแต่งหน้ากึ่งถาวร ภายในระยะเวลา 2 ปี สีจะเปลี่ยนแปลงไปทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น, เนื่องจากใช้สีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และมีการใช้เข็มหนึ่งครั้งแล้วทิ้งจึงทำให้มีความปลอดภัยจากการติดเชื้อ



ข้อดีของการแต่งหน้ากึ่งถาวร
การแต่งหน้ากึ่งถาวรนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชั้นผิวหรือลักษณะผิวของแต่ละบุคคล
การแต่งหน้ากึ่งถาวรเพียงครั้งเดียวนั้นจะมีความคงทนมองเห็นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึงหลายปี ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น อเมริกา และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับการใช้น้ำหมึกหรือหมึกที่เป็นสีจากธรรมชาติ เพราะเป็นสีจากธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปสีก็จะหลุดลอกออกตามธรรมชาติจึงสามารถแก้ไขหรือแต่งเติมได้อย่างง่ายดาย ข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถเปลี่ยนดีไซน์หรือเลือกสีได้ตามที่ต้องการ
สุขลักษณะของห้องสัก/แต่งหน้ากึ่งถาวร
สิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย
1. สถานที่ทำการสักนั้นจะต้องมีความสะอาด มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรมีอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องตั้งรวมอยู่
2. พื้นที่โดยรอบควรมีการเก็บรักษาอุปกรณ์ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เพื่อความสะดวกสบายต่อการหยิบใช้งาน
3. อุปกรณ์ที่ต้องทำการฆ่าเชื้อและอุปกรณ์ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง จะต้องแยกจัดเก็บไว้ให้เป็นอย่างดี
(โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง)
4. ห้ามรับประทานอาหาร, เครื่องดื่ม, สูบบุหรี่ ในห้องสักเเด็ดขาด
5. ในห้องสักควรมีแค่ผู้เชี่ยวชาญและลูกค้าเท่านั้น
bottom of page